สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (12 พ.ย.) โดยได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่ปรับตัวลดลง ซึ่งเป็นปัจจัยที่ดึงดูดแรงซื้อทองคำ นอกจากนี้ ความวิตกกังวลเกี่ยวกับจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐยังทำให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 11.7 ดอลลาร์ หรือ 0.63% ปิดที่ 1,873.3 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 3.9 เซนต์ หรือ 0.16% ปิดที่ 24.306 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 15.9 ดอลลาร์ หรือ 1.83% ปิดที่ 884 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. พุ่งขึ้น 25.10 ดอลลาร์ หรือ 1.1% ปิดที่ 2,341.90 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำยังได้รับปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ เนื่องจากเมื่อดอลลาร์อ่อนค่าจะทำให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐนั้น มีราคาถูกลงและมีความน่าดึงดูดมากขึ้นสำหรับนักลงทุนที่ถือเงินสกุลอื่น
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.09% แตะที่ 92.9628 เมื่อคืนนี้
ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับตัวลดลงเมื่อคืนนี้ ซึ่งทำให้ต้นทุนค่าเสียโอกาส (opportunity cost) ของการถือครองทองคำ ปรับตัวลง และเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อทองคำ
นอกจากนี้ นักลงทุนยังเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในสหรัฐ ซึ่งทำให้หลายรัฐต้องออกมาตรการที่เข้มงวด โดยข้อมูลล่าสุดของ Worldometer ระบุว่า ขณะนี้สหรัฐมีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวน 10,708,728 ราย และมีผู้เสียชีวิต 247,398 ราย โดยสหรัฐติดอันดับ 1 ของโลกทั้งจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และผู้เสียชีวิต