สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เมื่อคืนนี้ (16 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัยหลังจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้หลายประเทศในยุโรปประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์ ขณะที่หลายรัฐในสหรัฐออกมาตรการที่เข้มงวดเพื่อควบคุมการแพร่ระบาด นอกจากนี้ การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังเป็นปัจจัยที่ดึงดูดแรงซื้อทองคำ
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 1.6 ดอลลาร์ หรือ 0.08% ปิดที่ 1,887.8 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 2.7 เซนต์ หรือ 0.11% ปิดที่ 24.802 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. พุ่งขึ้น 31.5 ดอลลาร์ หรือ 3.52% ปิดที่ 927.5 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 15.40 ดอลลาร์ หรือ 0.7% ปิดที่ 2,345.10 ดอลลาร์/ออนซ์
นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั้งในสหรัฐและทั่วโลกพุ่งขึ้นอย่างมาก โดยข้อมูลล่าสุดของ Worldometer ระบุว่า ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกขณะนี้อยู่ที่ 54,953,213 ราย และยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 1,326,589 ราย ขณะที่สหรัฐยังคงมีจำนวนผู้ติดเชื้อมากที่สุดในโลก โดยอยู่ที่ 11,367,214 ราย และมีจำนวนผู้เสียชีวิตมากที่สุดในโลก โดยอยู่ที่ 251,901 ราย
การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้หลายพื้นที่ในยุโรปประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์รอบใหม่ ซึ่งรวมถึงอังกฤษ เยอรมนี ฝรั่งเศส และอิตาลี ส่วนในสหรัฐนั้น รัฐมิชิแกนและวอชิงตันได้ประกาศใช้มาตรการที่เข้มงวดเพื่อควบคุมการแพร่ระบาด
นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้รับปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ เนื่องจากเมื่อดอลลาร์อ่อนค่าจะทำให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐนั้น มีราคาถูกลงและมีความน่าดึงดูดมากขึ้นสำหรับนักลงทุนที่ถือเงินสกุลอื่น
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.13% แตะที่ 92.6362 เมื่อคืนนี้