สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (4 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย และเข้าลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า ขณะที่มีแนวโน้มมากขึ้นว่า สหรัฐจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ในไม่ช้านี้ หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดในเดือนพ.ย.
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 1.1 ดอลลาร์ หรือ 0.06% ปิดที่ 1,840 ดอลลาร์/ออนซ์ แต่ปรับตัวขึ้น 2.9% ในรอบสัปดาห์นี้
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 11.6 เซนต์ หรือ 0.48% ปิดที่ 24.253 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. พุ่งขึ้น 34.2 ดอลลาร์ หรือ 3.29% ปิดที่ 1,072.8 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 39.90 ดอลลาร์ หรือ 1.7% ปิดที่ 2,357.80 ดอลลาร์/ออนซ์
นักลงทุนขายทองซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย เพื่อเข้าลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า อาทิ ตลาดหุ้น หลังจากนักลงทุนขานรับการคาดการณ์ที่ว่า สหรัฐจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่เร็วขึ้น หลังกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรต่ำกว่าคาดในเดือนพ.ย.
กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นเพียง 245,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 440,000 ตำแหน่ง และต่ำกว่าระดับ 610,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. โดยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ส่วนอัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 6.7% ในเดือนพ.ย. สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากแตะระดับ 6.9% ในเดือนต.ค.
นายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐกล่าวว่า ข้อมูลการจ้างงานที่ชะลอตัวบ่งชี้ว่า การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจกำลังหยุดชะงัก และเตือนว่าสหรัฐจะเผชิญกับสถานการณ์ที่เลวร้ายมากขึ้นในฤดูหนาวนี้ หากสภาคองเกรสไม่เร่งอนุมัติกฎหมายเยียวยาผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากโรคโควิด-19
นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐกล่าวว่า ตัวเลขการจ้างงานที่ซบเซาเป็นสิ่งที่ย้ำเตือนว่า สภาคองเกรสจำเป็นต้องเร่งพิจารณาออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19