ราคาทองฟิวเจอร์พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดทะยานกว่า 30 ดอลลาร์ ทะลุระดับ 1,890 ดอลลาร์ในวันนี้ ขานรับผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รวมทั้งความคืบหน้าในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ
นอกจากนี้ ราคาทองยังได้ปัจจัยบวกจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ ซึ่งจะเพิ่มความน่าดึงดูดของทอง โดยทำให้สัญญาทองมีราคาถูกลงสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น
ณ เวลา 21.01 น.ตามเวลาไทย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. ดีดตัวขึ้น 32.80 ดอลลาร์ หรือ 1.7% สู่ระดับ 1,891.90 ดอลลาร์/ออนซ์
นักวิเคราะห์ระบุว่า ปัจจัยพื้นฐานของทองยังคงมีความแข็งแกร่ง ซึ่งถ้าราคาทองสามารถปิดตลาดเหนือ 1,880 ดอลลาร์ในวันนี้ ราคาก็อาจจะทะยานขึ้นต่อไปสู่ระดับ 1,950 ดอลลาร์ก่อนสิ้นปีนี้
ทั้งนี้ เฟดมีมติเอกฉันท์คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 0.00-0.25% ในการประชุมวานนี้ โดยเฟดระบุว่าจะยังคงใช้เครื่องมือทุกอย่างในการสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
นอกจากนี้ เฟดระบุว่าจะยังคงซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) วงเงินรวม 1.2 แสนล้านดอลลาร์/เดือน โดยเฟดจะซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐวงเงิน 8 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน และซื้อตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกันการจำนอง (MBS) ในวงเงิน 4 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน จนกระทั่งบรรลุเป้าหมายของเฟดในการจ้างงานเต็มศักยภาพ และรักษาเสถียรภาพของราคา
ทางด้านนายมิตช์ แมคคอนเนลล์ ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภาสหรัฐ กล่าวว่า การเจรจาระหว่างแกนนำในสภาคองเกรสประสบความคืบหน้าในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อเยียวยาประชาชนและภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รวมทั้งการออกกฎหมายงบประมาณชั่วคราวเพื่อหลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานของรัฐบาลอันเนื่องจากการขาดแคลนงบประมาณ (ชัตดาวน์)
"เรามีความคืบหน้าครั้งสำคัญ และผมเชื่อมั่นว่าเราจะสามารถบรรลุข้อตกลงในไม่ช้า" นายแมคคอนเนลล์กล่าว
สมาชิกพรรครีพับลิกันและเดโมแครตได้เห็นพ้องที่จะแยกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 9.08 แสนล้านดอลลาร์ออกเป็นร่างกฎหมาย 2 ฉบับเพื่อเพิ่มโอกาสในการได้รับการอนุมัติจากสภาคองเกรส โดยฉบับแรกจะมีวงเงิน 7.48 แสนล้านดอลลาร์เพื่อเยียวยาผู้ที่ตกงานและธุรกิจขนาดย่อมที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ขณะที่อีกฉบับหนึ่งจะมีวงเงิน 1.60 แสนล้านดอลลาร์เพื่อให้ความช่วยเหลือมลรัฐต่างๆ
หากสภาคองเกรสไม่สามารถบรรลุข้อตกลง ก็จะทำให้หน่วยงานของรัฐบาลเผชิญภาวะชัตดาวน์ในวันที่ 19 ธ.ค. และชาวอเมริกันที่ตกงานจะไม่ได้รับเงินชดเชยจากสวัสดิการว่างงานในวันที่ 26 ธ.ค.