สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (5 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ก่อนที่จะรู้ผลเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภารอบสองในรัฐจอร์เจีย ซึ่งเป็นรัฐสมรภูมิที่จะชี้ชะตาว่าพรรคใดจะครองอำนาจในสภาคองเกรสสหรัฐ อย่างไรก็ดี ข้อมูลภาคการผลิตที่แข็งแกร่งของสหรัฐได้สกัดแรงบวกของราคาทองคำ
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 7.8 ดอลลาร์ หรือ 0.4% ปิดที่ 1,954.4 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 27.6 เซนต์ หรือ 1.01% ปิดที่ 27.64 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 48.1 ดอลลาร์ หรือ 4.49% ปิดที่ 1,119.6 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. พุ่งขึ้น 102.20 ดอลลาร์ หรือ 4.3% ปิดที่ 2,493.40 ดอลลาร์/ออนซ์
นักลงทุนจับตาการเลือกตั้งในรัฐจอร์เจีย ซึ่งถือเป็นเกมการเมืองที่มีเดิมพันสูงสำหรับพรรคเดโมแครตและรีพับลิกัน เพราะจะตัดสินว่าพรรคใดสามารถครองเสียงข้างมากในวุฒิสภา โดยการเลือกตั้งดังกล่าวมีกำหนดปิดหีบ และเริ่มนับคะแนนในช่วงเช้านี้เวลา 07.00 น.ตามเวลาไทย
ทั้งนี้ หากพรรคเดโมแครตชนะการเลือกตั้งในครั้งนี้ ก็จะทำให้ทางพรรคสามารถครองอำนาจเบ็ดเสร็จทั้งในทำเนียบขาว วุฒิสภา และสภาผู้แทนราษฎร และเอื้อต่อการผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐภายใต้รัฐบาลของนายโจ ไบเดน อย่างไรก็ดี ชัยชนะของพรรคเดโมแครตก็อาจเปิดทางให้นายไบเดนผลักดันมาตรการปรับขึ้นภาษีเงินได้นิติบุคคลได้ง่ายขึ้น
สัญญาทองคำได้รับแรงหนุนจากการที่นักลงทุนยังคงเดินหน้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย ในช่วงเวลาที่สหรัฐยังคงเผชิญกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รวมทั้งข่าวการพบไวรัสโควิด-19 กลายพันธุ์ในสหรัฐ
อย่างไรก็ดี แรงบวกของสัญญาทองคำถูกสกัดในระหว่างวัน หลังจากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) รายงานว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 60.7 ในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2561 จากระดับ 57.5 ในเดือนพ.ย. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 56.6 โดยได้รับแรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของคำสั่งซื้อใหม่และการจ้างงาน