สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (16 มี.ค.) โดยได้รับปัจจัยบวกจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐสหรัฐที่ร่วงหลุดจากระดับ 1.6% ขณะนักลงทุนจับตาผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 1.7 ดอลลาร์ หรือ 0.1% ปิดที่ 1,730.9 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 2 มี.ค. 2564
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 28.5 เซนต์ หรือ 1.08% ปิดที่ 26.003 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 9.6 ดอลลาร์ หรือ 0.79% ปิดที่ 1,219.1 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. พุ่งขึ้น 118.20 ดอลลาร์ หรือ 5% ปิดที่ 2,491.90 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำปิดในแดนบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เมื่อคืนนี้ ได้รับปัจจัยบวกจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีที่ร่วงลงต่ำกว่าระดับ 1.6% เมื่อคืนนี้
การปรับตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวล หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ตลาดทองคำได้รับแรงกดดันจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตร ซึ่งจะเพิ่มต้นทุนค่าเสียโอกาส (Opportunity Cost) ในการถือครองทองคำ เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย
นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐยังเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกลดลง 3.0% ในเดือนก.พ. หลังจากพุ่งขึ้น 7.6% ในเดือนม.ค. ทั้งนี้ การร่วงลงของยอดค้าปลีกในเดือนก.พ.ได้รับผลกระทบจากภาวะอากาศหนาวจัดในสหรัฐ
นักลงทุนจับตาผลการประชุมนโยบายการเงินของเฟดซึ่งจะมีการแถลงในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ หรือในช่วงเช้าตรู่ของวันพรุ่งนี้ตามเวลาไทย เพื่อดูท่าทีของเฟดเกี่ยวกับแนวโน้มการดีดตัวขึ้นของเงินเฟ้อที่เป็นผลจากการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ รวมทั้งการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ