ราคาทองฟิวเจอร์ปรับตัวขึ้นในวันนี้ โดยได้ปัจจัยหนุนจากการชะลอตัวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ และการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่าจะยังคงใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงิน
ณ เวลา 20.31 น.ตามเวลาไทย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. บวก 3.30 ดอลลาร์ หรือ 0.19% สู่ระดับ 1,735.80 ดอลลาร์/ออนซ์
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีชะลอตัวลงในวันนี้ หลังพุ่งขึ้นเหนือระดับ 1.74% เมื่อวานนี้ แตะระดับสูงสุดในรอบ 14 เดือน
ทั้งนี้ เฟดยืนยันว่าจะไม่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจนถึงปี 2566 แม้เฟดคาดการณ์ว่าเงินเฟ้อจะปรับตัวเพิ่มขึ้นก็ตาม
ทางด้านนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด กล่าวว่า เฟดจะเดินหน้าใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป ซึ่งรวมถึงการซื้อพันธบัตรรัฐบาลตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) พร้อมกับกล่าวว่า เฟดต้องการเห็นเงินเฟ้ออยู่เหนือเป้าหมายที่ระดับ 2% และตลาดแรงงานขยายตัวอย่างเต็มศักยภาพ ก่อนที่เฟดจะพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หรือลดวงเงิน QE
นายจิม แครอน ผู้จัดการพอร์ทโฟลิโอตราสารหนี้โลกของมอร์แกน สแตนลีย์ กล่าวว่า การพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล และเป็นการสะท้อนความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นต่อแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ
"ความเชื่อมั่นของนักลงทุนมาจากการที่รัฐต่างๆกลับมาเปิดเศรษฐกิจอีกครั้ง ขณะที่ชาวอเมริกันรับการฉีดวัคซีนโควิด-19 มากขึ้น ซึ่งทำให้อัตราการติดเชื้อลดลง นอกจากนี้ เม็ดเงินจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และโครงการช่วยเหลือการจ้างงาน ก็ได้เป็นปัจจัยทำให้ผู้บริโภคเพิ่มการใช้จ่าย และมีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้น" นายแครอนกล่าว
นายแครอนกล่าวว่า การดีดตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐไม่ได้เป็นสิ่งที่แสดงถึงภาวะตึงตัวทางการเงิน และการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐจะไม่ทำให้เกิดเงินเฟ้อรุนแรงตามที่มีความกังวลในตลาด
ทางด้านนายไมเคิล สเปนเซอร์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของดอยซ์แบงก์ กล่าวว่า "ทุกคนมีความเชื่อมั่นต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งเราเชื่อว่าเศรษฐกิจจะขยายตัว 7.5% ในปีนี้"
นายสเปนเซอร์ยังกล่าวว่า "เป็นเรื่องปกติที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวจะดีดตัวขึ้น และเราคาดว่าในช่วงปลายปีนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีจะพุ่งขึ้นแตะระดับ 2.25% หรือสูงกว่านั้น"