สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (6 เม.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการชะลอตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ นอกจากนี้ ตลาดทองคำยังได้ปัจจัยบวกจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ รวมทั้งการที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ปรับเพิ่มคาดการณ์แนวโน้มเศรษฐกิจโลกทั้งในปีนี้และปีหน้า
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 14.2 ดอลลาร์ หรือ 0.82% ปิดที่ 1,743 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 44.7 เซนต์ หรือ 1.8% ปิดที่ 25.227 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. พุ่งขึ้น 30.7 ดอลลาร์ หรือ 2.54% ปิดที่ 1,240.5 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 35.50 ดอลลาร์ หรือ 1.3% ปิดที่ 2,690.20 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำปิดในแดนบวกติดต่อกัน 3 วันทำการ โดยได้รับปัจจัยหนุนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีที่ชะลอตัวลงสู่ระดับ 1.66% เมื่อคืนนี้ โดยการปรับตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวล หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ตลาดทองคำได้รับแรงกดดันจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตร ซึ่งจะเพิ่มต้นทุนค่าเสียโอกาส (Opportunity Cost) ในการถือครองทองคำ เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย
ขณะเดียวกันการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์เป็นปัจจัยบวกต่อตลาดทองคำ เนื่องจากทำให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐนั้น มีราคาถูกลง และมีความน่าดึงดูดมากขึ้นสำหรับนักลงทุนที่ถือเงินสกุลอื่น
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.29% สู่ระดับ 92.3261 เมื่อคืนนี้
นอกจากนี้ ตลาดทองคำยังได้ปัจจัยหนุนหลังจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปี 2564 สู่ระดับ 6% จากระดับ 5.5% และปรับเพิ่มคาดการณ์เศรษฐกิจปี 2565 สู่ระดับ 4.4% จากระดับ 4.2%