ราคาทองฟิวเจอร์ร่วงลงหลุดระดับ 1,740 ดอลลาร์ในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนพากันเทขายทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความหวังเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ
นอกจากนี้ ราคาทองยังได้รับผลกระทบจากความวิตกที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้ เพื่อสกัดเงินเฟ้อ หากเศรษฐกิจสหรัฐมีการขยายตัวที่แข็งแกร่ง
ณ เวลา 21.35 น.ตามเวลาไทย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลบ 3.40 ดอลลาร์ หรือ 0.19% สู่ระดับ 1,739.60 ดอลลาร์/ออนซ์
นักลงทุนคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง หลังการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานที่สูงเกินคาด รวมทั้งการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยเมื่อวันศุกร์ว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐ พุ่งขึ้น 916,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2563 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 647,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงาน ลดลงสู่ระดับ 6.0% ในเดือนมี.ค. จาก 6.2% ในเดือนก.พ.
สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐพุ่งขึ้นสู่ระดับ 63.7 ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากระดับ 55.3 ในเดือนก.พ. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 59.0
ดัชนีภาคบริการของสหรัฐได้รับแรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของคำสั่งซื้อใหม่และการจ้างงาน ท่ามกลางความคืบหน้าในการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในสหรัฐ และการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมทั้งสภาพอากาศที่อบอุ่นขึ้นในเดือนมี.ค.
นักลงทุนจับตารายงานการประชุมเฟดในวันนี้เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ย หลังจากที่คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของเฟดมีมติเอกฉันท์คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 0.00-0.25% ในการประชุมเมื่อวันที่ 16-17 มี.ค. และส่งสัญญาณว่าจะไม่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจนถึงปี 2566
นอกจากนี้ เฟดยังได้ปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในปี 2564 และ 2565 สู่ระดับ 6.5% และ 3.3% ตามลำดับ ขณะที่เฟดให้คำมั่นเดินหน้าซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) อย่างน้อย 1.2 แสนล้านดอลลาร์/เดือน โดยเฟดจะซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐวงเงิน 8 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน และซื้อตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกันการจำนอง (MBS) ในวงเงิน 4 หมื่นล้านดอลลาร์