สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลดลงเมื่อคืนนี้ (9 เม.ย.) โดยถูกกดดันจากการที่ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับตัวขึ้น นอกจากนี้ การเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐกดดันราคาทองด้วย
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 13.4 ดอลลาร์ หรือ 0.76% ปิดที่ 1,744.8 ดอลลาร์/ออนซ์ แต่สัญญาทองคำยังคงปรับตัวขึ้นเกือบ 1% ในรอบสัปดาห์นี้
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 26 เซนต์ หรือ 1.02% ปิดที่ 25.325 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 26.1 ดอลลาร์ หรือ 2.11% ปิดที่ 1,209.3 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 7.7 ดอลลาร์ หรือ 0.3% ปิดที่ 2,636 ดอลลาร์/ออนซ์
ราคาทองถูกกดดันจากการที่ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ ซึ่งลดความน่าดึงดูดใจในการถือครองทองคำ
นอกจากนี้ ราคาทองยังถูกถ่วงลงหลังการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต พุ่งขึ้น 1.0% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากเพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนก.พ. และเมื่อเทียบรายปี ดัชนี PPI พุ่งขึ้น 4.2% ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดในรอบ 9 ปีครึ่งนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2554 หลังจากเพิ่มขึ้น 2.8% ในเดือนก.พ.
ส่วนกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากพุ่งขึ้น 1.4% ในเดือนม.ค. และเมื่อเทียบรายปี สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเพิ่มขึ้น 2.0% ในเดือนก.พ.
ยอดขายในภาคค้าส่งลดลง 0.8% ในเดือนก.พ. หลังจากพุ่งขึ้น 4.4% ในเดือนม.ค. ขณะที่เจ้าของธุรกิจจะใช้เวลา 1.27 เดือนในการขายสินค้าจนหมดสต็อก เพิ่มขึ้นจากระดับ 1.25 เดือนในเดือนม.ค.