สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (19 เม.ย.) หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐดีดตัวขึ้นและเป็นปัจจัยกดดันตลาด นอกจากนี้ นักลงทุนบางส่วนได้เทขายทำกำไรหลังจากสัญญาทองคำพุ่งขึ้นแข็งแกร่งในสัปดาห์ที่ผ่านมา
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 9.6 ดอลลาร์ หรือ 0.54% ปิดที่ 1,770.6 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 26.8 เซนต์ หรือ 1.03% ปิดที่ 25.837 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 2.2 ดอลลาร์ หรือ 0.18% ปิดที่ 1,206.5 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. พุ่งขึ้น 38.90 ดอลลาร์ หรือ 1.4% ปิดที่ 2,813.60 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำได้รับแรงกดดันหลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีดีดตัวขึ้นแตะระดับ 1.589% เมื่อคืนนี้
ทั้งนี้ การพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะเพิ่มต้นทุนค่าเสียโอกาส (Opportunity Cost) ในการถือครองทองคำ เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย นอกจากนี้ การปรับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลจะดึงดูดให้นักลงทุนหันเข้าซื้อพันธบัตร แต่จะเทขายทอง ในการปรับพอร์ตการลงทุนในกลุ่มสินทรัพย์ปลอดภัย
นอกจากนี้ นักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาทองคำทะยานขึ้น 2% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งทำสถิติปรับตัวขึ้นรายสัปดาห์ที่แข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2563
นักวิเคราะห์จากบริษัทวูล์ฟแพค แคปิตอลในสหรัฐกล่าวว่า ราคาทองคำไม่สามารถรั้งแรงบวกจากเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเอาไว้ได้ ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการขาดปัจจัยขับเคลื่อนที่แข็งแกร่ง รวมทั้งการที่นักลงทุนหันไปให้ความสนใจกับการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้น ซึ่งอาจทำให้แรงจูงใจในการเข้าลงทุนในตลาดทองคำลดน้อยลงด้วย
นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 27-28 เม.ย. หลังเฟดเปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 16-17 มี.ค. โดยระบุว่า เฟดจะยังคงใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินต่อไปจนกว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะฟื้นตัวอย่างยั่งยืน