สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดขยับลงเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (27 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่จะรู้ผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1 ของสหรัฐในวันพฤหัสบดีนี้
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 1.3 ดอลลาร์ หรือ 0.07% ปิดที่ 1,778.8 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 20.1 เซนต์ หรือ 0.77% ปิดที่ 26.41 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 4.3 ดอลลาร์ หรือ 0.35% ปิดที่ 1,249.5 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 43.30 ดอลลาร์ หรือ 1.5% ปิดที่ 2,952.60 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำปรับตัวในกรอบแคบๆ ก่อนที่ตลาดจะรู้ผลการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ หรือในช่วงเช้าตรู่ของวันพรุ่งนี้ตามเวลไทย ทางด้านนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นเอาไว้ที่ระดับใกล้ 0% และเดินหน้าซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) อย่างน้อย 1.2 แสนล้านดอลลาร์/เดือน
นักวิเคราะห์จากบริษัท Oanda ในรัฐนิวยอร์ก กล่าวว่า นักลงทุนในตลาดทองคำจับตาความเคลื่อนไหวของเฟดอย่างใกล้ชิด พร้อมกับคาดการณ์ว่า ราคาทองมีแนวโน้มพุ่งขึ้นทะลุแนว 1,800 ดอลลาร์ หากการปรับเพิ่มแนวโน้มเศรษฐกิจของเฟดไม่ส่งผลให้เกิดแรงเทขายในตลาดพันธบัตร
รายงานระบุว่า นักลงทุนบางส่วนได้เทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งเมื่อคืนนี้ โดยผลสำรวจของเอสแอนด์พี คอร์โลจิก เคส ชิลเลอร์ ระบุว่า ดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศในสหรัฐพุ่งขึ้น 12% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว โดยเป็นการพุ่งขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.2549 หลังจากเพิ่มขึ้น 11.2% ในเดือนม.ค.
ทางด้านผลสำรวจของ Conference Board ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐพุ่งขึ้นสู่ระดับ 121.7 ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เริ่มเกิดการระบาดของโควิด-19 ในเดือนก.พ.2563 จากระดับ 109.0 ในเดือนมี.ค. และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 113.0 โดยได้แรงหนุนจากการฉีดวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ในวงกว้าง และการเปิดเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งทำให้มีการจ้างงานเพิ่มขึ้น