สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้เมื่อคืนนี้ (6 พ.ค.) ทำสถิติปิดเหนือเส้นสำคัญทางจิตวิทยาที่ระดับ 1,800 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนก.พ.ปีนี้ โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และการปรับตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. พุ่งขึ้น 31.4 ดอลลาร์ หรือ 1.76% ปิดที่ 1,815.70 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 12 ก.พ. 2564
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 95.5 เซนต์ หรือ 3.6% ปิดที่ 27.477 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 28.8 ดอลลาร์ หรือ 2.34% ปิดที่ 1,257.6 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. ร่วงลง 25.40 ดอลลาร์ หรือ 0.9% ปิดที่ 2,947.40 ดอลลาร์/ออนซ์
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีร่วงลงสู่ระดับ 1.571% เมื่อคืนนี้ ซึ่งช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวล หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ตลาดทองคำได้รับแรงกดดันจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตร ซึ่งจะเพิ่มต้นทุนค่าเสียโอกาส (Opportunity Cost) ในการถือครองทองคำ เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย
นอกจากนี้ การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดทองคำ เนื่องจากทำให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐนั้น มีราคาถูกลงและมีความน่าดึงดูดมากขึ้นสำหรับนักลงทุนที่ถือเงินสกุลอื่น
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.40% แตะที่ 90.9523 เมื่อคืนนี้
นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนเม.ย.ของสหรัฐซึ่งกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยในวันนี้ ด้านนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะพุ่งขึ้นแตะระดับ 1,000,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย. และคาดว่าอัตราว่างงานจะลดลงสู่ระดับ 5.8%