สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 5 เมื่อคืนนี้ (19 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐร่วงลง และราคาบิตคอยน์ดิ่งลงอย่างหนัก อันเนื่องมาจากข่าวรัฐบาลจีนประกาศห้ามการทำธุรกรรมด้วยสกุลเงินคริปโต
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 13.5 ดอลลาร์ หรือ 0.72% ปิดที่ 1,881.5 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 7 ม.ค. 2564
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 30.8 เซนต์ หรือ 1.09% ปิดที่ 28.025 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. ร่วงลง 23.7 ดอลลาร์ หรือ 1.93% ปิดที่ 1,201.6 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 18.30 ดอลลาร์ หรือ 0.6% ปิดที่ 2,884.80 ดอลลาร์/ออนซ์
นักลงทุนแห่ซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐร่วงลง รวมทั้งราคาบิตคอยน์ที่ทรุดตัวลงเกือบ 30% เมื่อคืนนี้ หลังรัฐบาลจีนสั่งห้ามไม่ให้สถาบันการเงินให้บริการใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมสกุลเงินคริปโต และเตือนไม่ให้นักลงทุนทำการซื้อขายสกุลเงินคริปโตเพื่อเก็งกำไร
สมาคมการเงินอินเทอร์เน็ตแห่งชาติของจีน, สมาคมการธนาคารของจีน และสมาคมการชำระหนี้ของจีนได้แถลงคำสั่งร่วมกันเมื่อวานนี้ว่า สถาบันการเงิน ซึ่งรวมถึงธนาคารและช่องทางต่างๆที่รับชำระเงินทางออนไลน์ จะไม่สามารถให้บริการใดๆ เกี่ยวกับสกุลเงินคริปโตแก่ลูกค้าได้ เช่น การจดทะเบียน, การซื้อขาย, การชำระบัญชี และการออกผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินคริปโต เนื่องจากรัฐบาลจีนกังวลว่า ราคาสกุลเงินคริปโตที่มีความผันผวนอย่างรุนแรงนั้น จะส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของทรัพย์สินของประชาชน และจะส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจและการเงินของจีน
นักลงทุนจับตารายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประจำวันที่ 27-28 เม.ย. โดยตลาดทองคำนิวยอร์กปิดทำการซื้อขายก่อนที่คณะกรรมการเฟดจะเปิดเผยรายงานการประชุมดังกล่าว