สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (21 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรสัญญาทองคำ หลังจากราคาปรับตัวขึ้น 6 วันติดต่อกัน
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 5.2 ดอลลาร์ หรือ 0.28% ปิดที่ 1,876.7 ดอลลาร์/ออนซ์ แต่ในรอบสัปดาห์นี้ สัญญาทองคำปรับตัวขึ้น 2.1%
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 58.1 เซนต์ หรือ 2.07% ปิดที่ 27.486 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 35.6 ดอลลาร์ หรือ 2.95% ปิดที่ 1,169.4 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. ร่วงลง 95.20 ดอลลาร์ หรือ 3.3% ปิดที่ 2,775.00 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำปรับตัวลงจากแรงขายทำกำไร หลังราคาปรับตัวขึ้นต่อเนื่องถึง 6 วัน และนักลงทุนยังลดการถือครองสัญญาทองคำในฐานะที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัยด้วย หลังการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ
ไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงินเปิดเผยว่า ดัชนี PMI รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐ ดีดตัวสู่ระดับ 68.1 ในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากระดับ 63.5 ในเดือนเม.ย. โดยดัชนี PMI ยังคงอยู่เหนือระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ว่า ภาคธุรกิจของสหรัฐยังคงมีการขยายตัวทั้งภาคการผลิตและบริการ
ดัชนี PMI ได้รับแรงหนุนจากการจ้างงานที่เพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 11 ขณะที่คำสั่งซื้อใหม่เพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 5 ส่วนความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจดีดตัวขึ้นขานรับการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ และความคืบหน้าในการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในวงกว้าง
ดัชนี PMI ภาคการผลิตเบื้องต้นอยู่ที่ 61.5 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากระดับ 60.5 ในเดือนเม.ย. และดัชนี PMI ภาคบริการเบื้องต้นอยู่ที่ 70.1 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากระดับ 64.7 ในเดือนเม.ย.