สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (7 มิ.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ อย่างไรก็ดี การดีดตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐได้สกัดแรงบวกของราคาทองคำในระหว่างวัน
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 6.8 ดอลลาร์ หรือ 0.36% ปิดที่ 1,898.8 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 12.2 เซนต์ หรือ 0.44% ปิดที่ 28.018 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. พุ่งขึ้น 10.4 ดอลลาร์ หรือ 0.89% ปิดที่ 1,174.8 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 4.50 ดอลลาร์ หรือ 0.2% ปิดที่ 2,837.70 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำปิดในแดนบวก เนื่องจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ช่วยให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีความน่าดึงดูดมากขึ้นสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่นๆ
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.21% แตะที่ 89.9510 เมื่อคืนนี้
อย่างไรก็ดี อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ดีดตัวสู่ระดับ 1.574% เมื่อคืนนี้ ซึ่งเป็นปัจจัยฉุดราคาทองคำในระหว่างวัน เนื่องจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะเพิ่มต้นทุนค่าเสียโอกาส (Opportunity Cost) ในการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย
นักลงจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐในวันพฤหัสบดีนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนี CPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค จะพุ่งขึ้น 4.7% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายปี หลังจากดีดตัวขึ้น 4.2% ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2551