สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เมื่อคืนนี้ (15 มิ.ย.) เนื่องจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐยังคงเป็นปัจจัยที่สร้างแรงกดดันต่อตลาด นอกจากนี้ นักลงทุนยังระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่จะรู้ผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ หรือในช่วงเช้าตรู่วันพรุ่งนี้ตามเวลาไทย
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 9.5 ดอลลาร์ หรือ 0.51% ปิดที่ 1,856.4 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 14 พ.ค. 2564
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 34.6 เซนต์ หรือ 1.23% ปิดที่ 27.693 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 16.7 ดอลลาร์ หรือ 1.43% ปิดที่ 1,148.6 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 8.20 ดอลลาร์ หรือ 0.3% ปิดที่ 2,764.80 ดอลลาร์/ออนซ์
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ดีดตัวสู่ระดับ 1.504% เมื่อคืนนี้ ซึ่งสร้างแรงกดดันต่อราคาทองคำ เนื่องจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะเพิ่มต้นทุนค่าเสียโอกาส (Opportunity Cost) ในการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย
นอกจากนี้ การพุ่งขึ้นของตัวเลขเงินเฟ้อทำให้นักลงทุนวิตกกังวล ก่อนที่จะรู้ผลการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ หรือในช่วงเช้าตรู่วันพรุ่งนี้ตามเวลาไทย ขณะที่นักวิเคราะห์ส่วนหนึ่งคาดการณ์ว่า เฟดจะเริ่มอภิปรายเกี่ยวกับการปรับลดวงเงินในโครงการ QE ในการประชุมครั้งนี้ แต่คาดว่าเฟดจะยังไม่เปิดเผยแผนการดังกล่าวต่อสาธารณชนจนกว่าจะถึงเดือนส.ค.หรือก.ย.ปีนี้
ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต เพิ่มขึ้น 0.8% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 0.6%
หากเทียบเป็นรายปี ดัชนี PPI เดือนพ.ค.พุ่งขึ้น 6.6% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่เริ่มมีการรวบรวมข้อมูลดังกล่าวในปี 2553 และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 6.3%