สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ ( 18 มิ.ย.) และปรับตัวลงมากที่สุดในรอบสัปดาห์นี้นับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2563 โดยถูกกดดันจากการที่เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นหลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 5.8 ดอลลาร์ หรือ 0.33% ปิดที่ 1,769 ดอลลาร์/ออนซ์ และร่วงลง 5.9% ในรอบสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นการร่วงลงรายสัปดาห์มากที่สุดนับตั้งแต่สัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 13 มี.ค. 2563
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 11.3 เซนต์ หรือ 0.44% ปิดที่ 25.969 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 14.2 ดอลลาร์ หรือ 1.35% ปิดที่ 1,041 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 42.30 ดอลลาร์ หรือ 1.7% ปิดที่ 2,469.90 ดอลลาร์/ออนซ์
ทั้งนี้ สัญญาทองคำปิดตลาดปรับตัวลง หลังจากดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.39% แตะที่ 92.2262 เมื่อคืนนี้
ดัชนีดอลลาร์พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 เดือนเมื่อคืนนี้ หลังจากที่นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาเซนต์หลุยส์กล่าวว่า เฟดอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในปีหน้า
นายบูลลาร์ดเปิดเผยว่า เขาเป็นกรรมการเฟด 1 ใน 7 รายที่คาดว่า เฟดจะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีหน้าเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ
"ผมคาดว่าเฟดจะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปลายปีหน้าเพื่อควบคุมเงินเฟ้อที่จะพุ่งแตะ 3% ในปีนี้ และจะอยู่ที่ 2.5% ไปจนถึงปี 2565 โดยสูงกว่าเป้าหมายที่ระดับ 2% ของเฟด" นายบูลลาร์ดกล่าว
นายบูลลาร์ดระบุว่า การที่เฟดส่งสัญญาณขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าคาดในสัปดาห์นี้นั้น ถือเป็นการรับมือตามปกติต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และโดยเฉพาะต่อเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นเร็วกว่าที่คาดไว้ ขณะที่สหรัฐทำการเปิดเศรษฐกิจอีกครั้งหลังจากประกาศล็อกดาวน์ก่อนหน้านี้เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ในการประชุมกำหนดนโยบายการเงินในสัปดาห์นี้ กรรมการเฟดจำนวน 13 จาก 18 รายคาดว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปลายปี 2566 ซึ่งเร็วกว่าเดิมที่เคยส่งสัญญาณในเดือนมี.ค.ว่า เฟดจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจนกว่าจะถึงปี 2567 นอกจากนี้ เฟดยังคาดว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 2 ครั้งในปี 2566
ทั้งนี้ การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์จะส่งผลให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีความน่าดึงดูดน้อยลงสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น