สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (24 มิ.ย.) เนื่องจากการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐและการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐได้กดดันให้นักลงทุนเทขายทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 6.7 ดอลลาร์ หรือ 0.38% ปิดที่ 1,776.7 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 6.1 เซนต์ หรือ 0.23% ปิดที่ 26.05 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 7.4 ดอลลาร์ หรือ 0.68% ปิดที่ 1,093.9 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 13.40 ดอลลาร์ หรือ 0.5% ปิดที่ 2,643.90 ดอลลาร์/ออนซ์
นักลงทุนเทขายสินทรัพย์ปลอดภัยหลังจากตลาดหุ้นสหรัฐพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งเมื่อคืนนี้ โดยดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 300 จุด ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดทำนิวไฮ หลังจากทำเนียบขาวสามารถบรรลุข้อตกลงกับสภาคองเกรสในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน โดยมีเป้าหมายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการจ้างงานในสหรัฐ
ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวซึ่งรวมถึงการใช้จ่ายงบประมาณครั้งใหม่วงเงิน 5.79 แสนล้านดอลลาร์ด้วยนั้น จะครอบคลุมถึงโครงการสร้างถนน สะพาน ทางรถไฟ ปัจจัยพื้นฐานสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง และโครงการอื่นๆ
นอกจากนี้ การเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐยังเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 1/2564 ขยายตัว 6.4% ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐยังระบุด้วยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป เพิ่มขึ้น 2.3% ในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.2563 หลังจากลดลง 0.8% ในเดือนเม.ย.
ทางด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 7,000 ราย สู่ระดับ 411,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว จากระดับ 418,000 รายในสัปดาห์ก่อนหน้านี้