ราคาทองฟิวเจอร์ปรับตัวขึ้นในวันนี้ โดยได้อานิสงส์จากการอ่อนค่าของดอลลาร์ ส่งผลให้ราคาทองดีดตัวขึ้นเป็นสัปดาห์แรกในรอบ 4 สัปดาห์
ณ เวลา 23.33 น.ตามเวลาไทย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. บวก 0.8 ดอลลาร์ หรือ 0.04% สู่ระดับ 1,777.80 ดอลลาร์/ออนซ์
ดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง จะเพิ่มความน่าดึงดูดของทอง โดยทำให้สัญญาทองมีราคาถูกลงสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น
ทั้งนี้ ดอลลาร์อ่อนค่าลงในวันนี้ โดยถูกกดดันจากรายงานที่ว่า ทำเนียบขาวสามารถบรรลุข้อตกลงกับสภาคองเกรสในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ส่งผลให้นักลงทุนเทขายดอลลาร์ ซึ่งเป็นสกุลเงินปลอดภัย และหันไปซื้อสกุลเงินที่เป็นสินทรัพย์เสี่ยง
ประธานาธิบดีโจ ไบเดนประกาศว่า ทำเนียบขาวสามารถบรรลุข้อตกลงกับสภาคองเกรสในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและการจ้างงานในสหรัฐ
ทำเนียบขาวระบุว่า มาตรการดังกล่าวรวมถึงการใช้จ่ายงบประมาณครั้งใหม่วงเงิน 5.79 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งจะรวมทั้งโครงการสร้างถนน สะพาน ทางรถไฟ ปัจจัยพื้นฐานสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง และโครงการอื่นๆ
ทางด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ พุ่งขึ้น 3.4% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นการพุ่งขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2535 หรือสูงสุดในรอบเกือบ 30 ปี
เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี PCE พื้นฐานเพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนพ.ค.
ส่วนดัชนี PCE ทั่วไปเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนพ.ค. จากระดับ 0.6% ในเดือนเม.ย.
เมื่อเทียบรายปี ดัชนี PCE ทั่วไปพุ่งขึ้น 3.9% ในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นการพุ่งขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2561
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์ระบุว่าตัวเลขเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นดังกล่าวถูกบิดเบือนจากการเปรียบเทียบกับตัวเลขฐานที่ต่ำผิดปกติในปีที่แล้ว ซึ่งขณะนั้นราคาสินค้าได้ทรุดตัวลง โดยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และจากการปิดเศรษฐกิจ หลังประกาศมาตรการล็อกดาวน์
นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ระบุก่อนหน้านี้ว่า การปรับตัวขึ้นของเงินเฟ้อในระยะนี้เป็นเพียงปัจจัยชั่วคราว และจะผ่อนคลายลงในปีหน้า ขณะที่เศรษฐกิจกลับสู่ภาวะปกติ โดยไม่มีปัญหาการขาดแคลนแรงงานและวัตถุดิบในการผลิต