สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเกือบ 1% เมื่อคืนนี้ (29 มิ.ย.) เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์เป็นปัจจัยกดดันตลาด นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐยังส่งผลให้นักลงทุนเทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ร่วงลง 17.1 ดอลลาร์ หรือ 0.96% ปิดที่ 1,763.6 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 35.3 เซนต์ หรือ 1.34% ปิดที่ 25.901 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 28.9 ดอลลาร์ หรือ 2.63% ปิดที่ 1,070.6 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 18.20 ดอลลาร์ หรือ 0.7% ปิดที่ 2,681.20 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.18% แตะที่ 92.0547 เมื่อคืนนี้
ทั้งนี้ การแข็งค่าของดอลลาร์จะส่งผลให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาแพงขึ้นและไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่นๆ
นอกจากนี้ นักลงทุนยังเทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง โดยผลสำรวจของ Conference Board ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐพุ่งขึ้นสู่ระดับ 127.3 ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เริ่มเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในเดือนก.พ.2563 และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 119.0
ขณะที่ผลสำรวจของเอสแอนด์พี คอร์โลจิก เคส ชิลเลอร์ ระบุว่า ดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศในสหรัฐพุ่งขึ้น 14.6% ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นการพุ่งขึ้นมากที่สุดในรอบกว่า 30 ปี และเป็นการปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 11 โดยได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งของผู้ซื้อบ้าน และสต็อกบ้านที่ตึงตัว
นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันศุกร์นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 683,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. สูงกว่าในเดือนพ.ค.ที่เพิ่มขึ้นเพียง 559,000 ตำแหน่ง