สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (20 ก.ค.) เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาที่แพร่ระบาดทั่วโลกทำให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย อย่างไรก็ดี สัญญาทองคำขยับขึ้นเพียงเล็กน้อย เนื่องจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐเป็นปัจจัยกดดันตลาด
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 2.2 ดอลลาร์ หรือ 0.12% ปิดที่ 1,811.4 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 14.9 เซนต์ หรือ 0.59% ปิดที่ 24.995 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 6.2 ดอลลาร์ หรือ 0.58% ปิดที่ 1,065.2 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. พุ่งขึ้น 47.70 ดอลลาร์ หรือ 1.8% ปิดที่ 2,640.40 ดอลลาร์/ออนซ์
นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาที่แพร่ระบาดอย่างหนักในขณะนี้ โดยล่าสุด ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐ (CDC) แถลงว่า ขณะนี้สหรัฐมีผู้ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตาคิดเป็น 83% ของผู้ติดเชื้อทั้งหมด สูงกว่าระดับ 50% ที่พบในช่วงวันที่ 27 มิ.ย.-3 ก.ค.
ทางด้านองค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า ไวรัสสายพันธุ์เดลตาสามารถแพร่ระบาดได้รวดเร็วกว่าสายพันธุ์ดั้งเดิมถึง 43-90% และขณะนี้มีการแพร่ระบาดไปยังกว่า 100 ประเทศทั่วโลก
อย่างไรก็ดี สัญญาทองคำขยับขึ้นเพียงเล็กน้อย โดยตลาดได้รับแรงกดดันจากดัชนีดอลลาร์ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.09% แตะที่ 92.9675 และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ดีดตัวสู่ระดับ 1.215% เมื่อคืนนี้
ทั้งนี้ การดีดตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ จะเพิ่มต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย ส่วนดอลลาร์ที่แข็งค่าจะลดความน่าดึงดูดของทอง โดยทำให้สัญญาทองมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น