สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (23 ก.ค.) โดยถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์และการดีดตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ รวมถึงการปรับตัวขึ้นทำนิวไฮของตลาดหุ้นสหรัฐได้ลดความน่าสนใจของสัญญาทองคำในฐานะที่เป็นแหล่งลงทุนที่ปลอดภัย
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 3.60 ดอลลาร์ หรือ 0.2% ปิดที่ 1,801.80 ดอลลาร์/ออนซ์ และลดลง 0.7% ในรอบสัปดาห์นี้
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 14.8 เซนต์ หรือ 0.58% ปิดที่ 25.233 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 29.2 ดอลลาร์ หรือ 2.68% ปิดที่ 1,061.4 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 42.20 ดอลลาร์ หรือ 1.6% ปิดที่ 2,662.4 ดอลลาร์/ออนซ์
นักลงทุนขายสัญญาทองคำออกมา เนื่องจากมีความต้องการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวขึ้นทำนิวไฮในวันศุกร์
นอกจากนี้ การแข็งค่าของดอลลาร์ และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่เพิ่มขึ้นนั้น เป็นปัจจัยถ่วงราคาทองคำลงด้วย
ทั้งนี้ การดีดตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ จะเพิ่มต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย ขณะที่ดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นจะลดความน่าดึงดูดของทอง โดยทำให้สัญญาทองมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น
ในสัปดาห์หน้า บรรดานักลงทุนจะจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 27-28 ก.ค.นี้ หลังนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดกล่าวแถลงการณ์รอบครึ่งปีว่าด้วยนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐต่อสภาคองเกรสเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า เฟดจะยังคงเดินหน้าซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) และจะยังไม่เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แม้อัตราเงินเฟ้อพุ่งขึ้นในขณะนี้ก็ตาม