สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (27 ก.ค.) โดยได้แรงหนุนจากเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง ซึ่งทำให้สัญญาทองคำที่กำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาที่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่นๆ ขณะที่นักลงทุนจับตาผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันพุธนี้
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 60 เซนต์ หรือ 0.03% ปิดที่ 1,799.8 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 66.9 เซนต์ หรือ 2.64% ปิดที่ 24.649 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 20.5 ดอลลาร์ หรือ 1.92% ปิดที่ 1,049.5 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 71.40 ดอลลาร์ หรือ 2.7% ปิดที่ 2,606.70 ดอลลาร์/ออนซ์
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.23% แตะที่ 92.4389 เมื่อคืนนี้
บรรดานักลงทุนรอดูผลการประชุม 2 วันของเฟดในวันพุธนี้ตามเวลาสหรัฐ ซึ่งตรงกับเช้าตรู่ของวันพฤหัสบดีนี้ตามเวลาประเทศไทย
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐที่เปิดเผยเมื่อคืนวานนี้นั้น กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป เพิ่มขึ้น 0.8% ในเดือนมิ.ย. น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 2.1% ซึ่งนับเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกันแล้วที่ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนออกมาต่ำกว่าคาดการณ์
เอสแอนด์พี คอร์โลจิก เคส-ชิลเลอร์เปิดเผยผลสำรวจบ่งชี้ว่า ดัชนีราคาบ้านทั่วสหรัฐพุ่งขึ้น 16.6% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นการพุ่งขึ้นมากที่สุดในรอบกว่า 30 ปี โดยเพิ่มขึ้นจากระดับ 14.8% ในเดือนเม.ย. และเป็นการปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 12
ส่วนดัชนีราคาบ้านใน 20 เมืองของสหรัฐ เพิ่มขึ้น 17% ในเดือนพ.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 15% ในเดือนเม.ย. และมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 16.3%
Conference Board ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจเปิดเผยผลสำรวจระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวขึ้นแตะระดับ 129.1 ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 16 เดือน จากระดับ 128.9 ในเดือนมิ.ย.
ตัวเลขดังกล่าวบ่งชี้ว่า ความเชื่อมั่นของชาวอเมริกันต่อเศรษฐกิจยังคงอยู่ในระดับสูง แม้ว่าการระบาดของโรคโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาอาจส่งผลให้รัฐบาลจำเป็นต้องบังคับใช้ข้อจำกัดบางประการทั้งต่อบุคคลและภาคธุรกิจ