สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (6 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายสัญญาทองคำในฐานะที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัยออกมา หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานเดือนก.ค.พุ่งขึ้นเกินคาด
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง 45.8 ดอลลาร์ หรือ 2.53% ปิดที่ 1,763.1 ดอลลาร์/ออนซ์ และร่วงลง 2.97% ในสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นการร่วงลงรายสัปดาห์รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่สัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 18 มิ.ย.
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. ร่วงลง 96.6 เซนต์ หรือ 3.82% ปิดที่ 24.326 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. ร่วงลง 33.5 ดอลลาร์ หรือ 3.33% ปิดที่ 972.2 ดอลลาร์/ออนซ์
ส่วนสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. ร่วงลง 25 ดอลลาร์ หรือ 0.9% ปิดที่ 2,630.10 ดอลลาร์/ออนซ์
นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำซึ่งถือเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 943,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 845,000 ตำแหน่ง จากระดับ 938,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย.
ส่วนอัตราการว่างงานปรับตัวลงสู่ระดับ 5.4% ในเดือนก.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 5.7% หลังจากแตะระดับ 5.9% ในเดือนมิ.ย.
ด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเพิ่มขึ้น 1.1% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากพุ่งขึ้น 1.3% ในเดือนพ.ค. ขณะที่ยอดขายในภาคค้าส่งพุ่งขึ้น 2.0% ในเดือนมิ.ย. หลังจากเพิ่มขึ้น 0.8% ในเดือนพ.ค. และเจ้าของธุรกิจจะใช้เวลา 1.22 เดือนในการขายสินค้าจนหมดสต็อก ลดลงจากระดับ 1.23 เดือนในเดือนพ.ค.
นอกจากนี้ การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังเป็นปัจจัยลบต่อตลาดทองคำ เนื่องจากทำให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐนั้น มีราคาแพงขึ้นและไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือเงินสกุลอื่น
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.58% สู่ระดับ 92.7918