ราคาทองฟิวเจอร์ดิ่งลงอย่างต่อเนื่องในวันนี้ ล่าสุดร่วงลงกว่า 30 ดอลลาร์ หลุดระดับ 1,730 ดอลลาร์ โดยถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ ซึ่งได้ลดความน่าดึงดูดในการลงทุนในทอง
ราคาทองดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 4 เดือนในวันนี้ โดยปรับตัวลงต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักลงทุนพากันขายทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้นเกินคาดในเดือนก.ค.
ทั้งนี้ ราคาทองสปอตดิ่งลงแตะระดับ 1,684.37 ดอลลาร์/ออนซ์ในวันนี้ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 31 มี.ค.
ส่วนราคาทองในตลาดฟิวเจอร์ ณ เวลา 22.17 น.ตามเวลาไทย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง 34.50 ดอลลาร์ หรือ 1.95% สู่ระดับ 1,728.60 ดอลลาร์/ออนซ์
ทางด้านกองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ลดการถือครองทอง สู่ระดับ 1,025.28 ตันเมื่อวันศุกร์
ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 943,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบเกือบ 1 ปี และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 845,000 ตำแหน่ง จากระดับ 938,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย.
ส่วนอัตราการว่างงานปรับตัวลงสู่ระดับ 5.4% ในเดือนก.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.7% หลังจากแตะระดับ 5.9% ในเดือนมิ.ย.
นักลงทุนจับตาตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ในวันพุธ และเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต ในวันพฤหัสบดี
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนี CPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน พุ่งขึ้น 4.3% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายปี
นักลงทุนกังวลว่า หากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นเกินคาดในเดือนก.ค. หลังจากที่มีการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่ง ก็จะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เริ่มปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) รวมทั้งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งจะเป็นปัจจัยลบต่อราคาทอง
นักลงทุนจับตาการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 26-28 ส.ค. โดยเฟดอาจส่งสัญญาณที่ชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งแนวโน้มการปรับลดวงเงิน QE ในการประชุมดังกล่าว