สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (11 ส.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อเดือนก.ค.ของสหรัฐที่สอดคล้องกับการคาดการณ์ของตลาด ซึ่งช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 21.6 ดอลลาร์ หรือ 1.25% ปิดที่ 1,753.3 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 9.6 เซนต์ หรือ 0.41% ปิดที่ 23.488 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 28.6 ดอลลาร์ หรือ 2.9% ปิดที่ 1,015.6 ดอลลาร์/ออนซ์
ส่วนสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 17.20 ดอลลาร์ หรือ 0.6% ปิดที่ 2,632.80 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำได้แรงหนุน หลังกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ปรับตัวขึ้น 0.5% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากดีดตัวขึ้น 0.9% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายปี ดัชนี CPI พุ่งขึ้น 5.4% ในเดือนก.ค. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 5.3% หลังจากทะยานขึ้น 5.4% ในเดือนมิ.ย.ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2551
หากไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ดัชนี CPI พื้นฐานปรับตัวขึ้น 0.3% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 0.4% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.9% ในเดือนมิ.ย. และเมื่อเทียบรายปี ดัชนี CPI พื้นฐานดีดตัวขึ้น 4.3% ในเดือนก.ค. หลังจากพุ่งขึ้น 4.5% ในเดือนมิ.ย.
นอกจากนี้ ดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ลดลงหลังการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐนั้น ได้ช่วยหนุนสัญญาทองคำบวกขึ้นด้วย
การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์เป็นปัจจัยบวกต่อตลาดทองคำ เนื่องจากทำให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐนั้น มีราคาถูกลงและมีความน่าดึงดูดมากขึ้นสำหรับนักลงทุนที่ถือเงินสกุลอื่น
ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่ลดลงจะช่วยลดต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย