สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (23 ส.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ รวมทั้งการคาดการณ์ที่ว่า การแพร่ระบาดอย่างหนักของไวรัสโควิด-19 อาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ชะลอเวลาการปรับลดวงเงินซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. พุ่งขึ้น 22.3 ดอลลาร์ หรือ 1.25% ปิดที่ 1,806.3 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 54.4 เซนต์ หรือ 2.35% ปิดที่ 23.656 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 19.9 ดอลลาร์ หรือ 2% ปิดที่ 1,014.1 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. พุ่งขึ้น 108.60 ดอลลาร์ หรือ 4.8% ปิดที่ 2,385.10 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำได้รับปัจจัยบวกจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.58% แตะที่ 92.9582 เมื่อคืนนี้
ทั้งนี้ การอ่อนค่าของดอลลาร์ทำให้สัญญาน้ำมันทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีความน่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น
นักลงทุนคาดการณ์ว่า เฟดอาจชะลอการปรับลดวงเงิน QE เนื่องจากไวรัสโควิด-19 โดยเฉพาะสายพันธุ์เดลตายังคงแพร่ระบาดอย่างนักและมีแนวโน้มที่จะขัดขวางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ นอกจากนี้ การชะลอตัวลงของภาคการผลิตและภาคบริการของสหรัฐยังเป็นอีกปัจจัยที่สนับสนุนการคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะยังไม่เร่งปรับลดวงเงิน QE
ไอเอชเอส มาร์กิตเปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐ ปรับตัวลงสู่ระดับ 55.4 ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.ปีที่แล้ว จากระดับ 59.9 ในเดือนก.ค.
อย่างไรก็ดี ดัชนี PMI ที่อยู่เหนือระดับ 50 บ่งชี้ว่า ภาคธุรกิจของสหรัฐยังคงมีการขยายตัว
นักลงทุนจับตาการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 26-28 ส.ค.นี้ โดยหัวข้อในการประชุมประจำปีนี้คือ "Monetary Policy Framework Review" ด้านนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าเฟดจะส่งสัญญาณที่ชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งแนวโน้มการปรับลดวงเงินในโครงการ QE ในการประชุมดังกล่าว