สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (27 ส.ค.) โดยได้แรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง และจากการที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่า เฟดจะไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แม้จะมีการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ก่อนสิ้นปีนี้ก็ตาม
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. พุ่งขึ้น 24.3 ดอลลาร์ หรือ 1.35% ปิดที่ 1,819.5 ดอลลาร์/ออนซ์ และปรับตัวขึ้นราว 2% ในรอบสัปดาห์นี้
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 51.2 เซนต์ หรือ 2.17% ปิดที่ 24.062 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 31 ดอลลาร์ หรือ 3.18% ปิดที่ 1,006.5 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 15.70 ดอลลาร์ หรือ 0.7% ปิดที่ 2,408.10 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำได้แรงหนุนจากเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง ซึ่งจะเพิ่มความน่าดึงดูดของทอง โดยทำให้สัญญาทองมีราคาถูกลงสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลบ 0.39% สู่ระดับ 92.6893
ราคาทองยังได้รับปัจจัยบวกจากการที่นายพาวเวลส่งสัญญาณในการประชุมประจำปีของเฟดในวันศุกร์ว่า เฟดจะไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แม้มีการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ก่อนสิ้นปีนี้ก็ตาม
นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้แรงหนุนจากคำสั่งซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย หลังจากมหาวิทยาลัยมิชิแกนเปิดเผยผลสำรวจระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐร่วงลงสู่ระดับ 70.3 ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2554 จากระดับ 81.2 ในเดือนก.ค. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 70.7