สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (3 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนได้พากันเข้าซื้อสัญญาทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานที่ต่ำกว่าคาด ซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังไม่ฟื้นตัวจากผลกระทบของโรคโควิด-19 ที่ยังคงแพร่ระบาด
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. พุ่งขึ้น 22.2 ดอลลาร์ หรือ 1.23% ปิดที่ 1,833.7 ดอลลาร์/ออนซ์ และปรับตัวขึ้นราว 0.8% ในรอบสัปดาห์นี้
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 88.4 เซนต์ หรือ 3.7% ปิดที่ 24.802 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 27.4 ดอลลาร์ หรือ 2.76% ปิดที่ 1,021.6 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 15.90 ดอลลาร์ หรือ 0.7% ปิดที่ 2,416.30 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำได้รับแรงซื้อในฐานะที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัย หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานในวันศุกร์ว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นเพียง 235,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 720,000 ตำแหน่ง และต่ำกว่าระดับ 1,053,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค.
ส่วนอัตราการว่างงานปรับตัวลงสู่ระดับ 5.2% ในเดือนส.ค. สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากแตะระดับ 5.4% ในเดือนก.ค.
สัญญาทองคำยังได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนคาดว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะไม่เร่งปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) หลังจากการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานที่อ่อนแอ
นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงหลังการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนั้น ได้ช่วยหนุนสัญญาทองคำขึ้นด้วย โดยเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงจะเพิ่มความน่าดึงดูดของทอง โดยทำให้สัญญาทองคำมีราคาถูกลงสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่นๆ
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.21% สู่ระดับ 92.0327