ราคาทองฟิวเจอร์ปรับตัวขึ้นในวันนี้ โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ ก่อนการประชุมกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในเดือนนี้
ณ เวลา 23.15 น.ตามเวลาไทย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. บวก 0.8 ดอลลาร์ หรือ 0.04% สู่ระดับ 1,794.30 ดอลลาร์/ออนซ์
ทั้งนี้ ดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงจะเพิ่มความน่าดึงดูดของทอง โดยทำให้สัญญาทองมีราคาถูกลงสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น
นักลงทุนจับตาการประชุมกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 21-22 ก.ย. โดยคาดว่าตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนส.ค.จะเป็นปัจจัยหนึ่งที่คณะกรรมการเฟดใช้ในการพิจารณาว่าจะเริ่มประกาศปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) หรือไม่
ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานเมื่อวันศุกร์ว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นเพียง 235,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 720,000 ตำแหน่ง หลังจากพุ่งขึ้น 1,053,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค.
ส่วนอัตราการว่างงานปรับตัวลงสู่ระดับ 5.2% ในเดือนส.ค. สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากแตะระดับ 5.4% ในเดือนก.ค.
ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ส่งสัญญาณปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรฉุกเฉินป้องกันผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 หรือ Pandemic Emergency Purchase Programme (PEPP) ในการประชุมวันนี้
"จากการประเมินสภาวะทางการเงินและแนวโน้มเงินเฟ้อ คณะกรรมการกำหนดนโยบายของ ECB มีความเห็นว่า ECB สามารถรักษาสภาวะทางการเงินที่น่าพึงพอใจด้วยการปรับลดวงเงินในการซื้อพันธบัตรในโครงการ PEPP เมื่อเทียบกับในช่วง 2 ไตรมาสที่ผ่านมา และ ECB พร้อมที่จะปรับเครื่องมือทุกอย่างตามความเหมาะสมเพื่อสร้างความมั่นใจว่าเงินเฟ้อจะมีเสถียรภาพที่ระดับ 2% ซึ่งเป็นเป้าหมายของ ECB ในระยะกลาง" แถลงการณ์ของ ECB ระบุ โดยไม่ได้ประกาศปรับลดวงเงินในโครงการดังกล่าวอย่างชัดเจน
ทั้งนี้ โครงการ PEPP ของ ECB เทียบเท่ากับโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
อย่างไรก็ดี นางคริสติน ลาการ์ด ประธาน ECB ยืนยันว่า การส่งสัญญาณปรับลดวงเงินในโครงการ PEPP ไม่ได้หมายความว่า ECB กำลังถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ได้ดำเนินมานับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19
"สิ่งที่เราได้ทำในวันนี้ เป็นการปรับระดับการซื้อพันธบัตรของเราเพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการมีสภาวะทางการเงินที่น่าพึงพอใจ และเรายังไม่ได้หารือว่าเราจะทำอะไรต่อไป" นางลาการ์ดกล่าว
ทั้งนี้ โครงการ PEPP มีวงเงินรวม 1.85 ล้านล้านยูโร ซึ่งในช่วง 2 ไตรมาสที่ผ่านมา ECB ได้ซื้อพันธบัตรตามโครงการดังกล่าวในวงเงินเดือนละ 8 หมื่นล้านยูโร
ผลการสำรวจนักวิเคราะห์คาดว่า ECB จะลดวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามโครงการ PEPP เหลือเพียง 6 หมื่นล้านยูโรต่อเดือน ก่อนที่จะลดวงเงินลงอีกในต้นปี 2565 และจะยุติโครงการในเดือนมี.ค.2565
ขณะเดียวกัน ECB มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมวันนี้ โดยคงอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ที่ระดับ 0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ และคงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับ ECB ที่ระดับ -0.50% ขณะที่คงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ระดับ 0.25%