สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (14 ก.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่ต่ำกว่าคาด
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 12.7 ดอลลาร์ หรือ 0.71% ปิดที่ 1,807.1 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 8.9 เซนต์ หรือ 0.37% ปิดที่ 23.885 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. ร่วงลง 18.8 ดอลลาร์ หรือ 1.96% ปิดที่ 938.7 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. ดิ่งลง 104.20 ดอลลาร์ หรือ 5% ปิดที่ 1,975.60 ดอลลาร์/ออนซ์
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ปรับตัวขึ้น 0.3% ในเดือนส.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.4% หลังจากดีดตัวขึ้น 0.5% ในเดือนก.ค.
เมื่อเทียบรายปี ดัชนี CPI ปรับตัวขึ้น 5.3% ในเดือนส.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.4% หลังจากพุ่งขึ้น 5.4% ในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.2551
ทั้งนี้ ดัชนี CPI ที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดเป็นปัจจัยหนุนตลาดทองคำ เนื่องจากทำให้นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และปรับลดวงเงินในโครงการ QE
นอกจากนี้ การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังช่วยให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาถูกลงและน่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่น โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.05% แตะที่ 92.6265 เมื่อคืนนี้