ราคาทองฟิวเจอร์ดิ่งลงกว่า 1% หลุดระดับ 1,730 ดอลลาร์ในวันนี้ โดยถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ และการดีดตัวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ
ณ เวลา 19.57 น.ตามเวลาไทย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง 22.60 ดอลลาร์ หรือ 1.29% สู่ระดับ 1,729.40 ดอลลาร์/ออนซ์
ทั้งนี้ การดีดตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ จะเพิ่มต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย ขณะที่ดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นจะลดความน่าดึงดูดของทอง โดยทำให้สัญญาทองมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งทะลุ 1.54% ในวันนี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.
การดีดตัวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐได้แรงหนุนจากปัจจัยความเชื่อมั่นต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และความวิตกต่อการพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อ รวมทั้งการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) และปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าคาดถึง 1 ปี
นักลงทุนจับตานายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด และนางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ซึ่งจะกล่าวถ้อยแถลงต่อสภาคองเกรสในสัปดาห์นี้ เพื่อแสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ และเน้นย้ำความสำคัญของการใช้นโยบายการเงินและการคลังในการกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังจากได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
สำนักข่าวหลายแห่งได้ทำการเผยแพร่ล่วงหน้าสำหรับร่างแถลงการณ์ที่นายพาวเวลและนางเยลเลนเตรียมกล่าวต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาในวันนี้เวลา 10.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือ 21.00 น.ตามเวลาไทย ก่อนที่จะกล่าวถ้อยแถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรในวันพฤหัสบดี
สื่อรายงานว่าแถลงการณ์ของนายพาวเวลและนางเยลเลนจะระบุเตือนว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาได้ชะลอการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ และสหรัฐจะเผชิญภาวะเงินเฟ้อพุ่งสูงเป็นระยะเวลานานกว่าที่คาดไว้
ร่างแถลงการณ์ของนายพาวเวลระบุว่า เฟดจะยังคงใช้นโยบายการเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ และเฟดจะดำเนินการหากเงินเฟ้อยังคงพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
"เงินเฟ้อได้เร่งตัวขึ้นในขณะนี้ และมีแนวโน้มยังคงอยู่ในระดับสูงในช่วงหลายเดือนข้างหน้า ก่อนที่จะอ่อนตัวลง" แถลงการณ์ระบุ
นอกจากนี้ นายพาวเวลจะระบุเตือนว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะสร้างความเสี่ยงต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ
ขณะเดียวกัน สื่อได้เผยแพร่ร่างแถลงการณ์ของนางเยลเลน ซึ่งได้เรียกร้องให้สภาคองเกรสเร่งอนุมัติร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวและเพิ่มเพดานหนี้ของสหรัฐ
"ขณะที่เศรษฐกิจของเรายังคงมีการขยายตัว และการจ้างงานได้ฟื้นตัวขึ้นจากปีที่แล้ว เราก็ยังคงเผชิญการท้าทายจากไวรัสสายพันธุ์เดลตาซึ่งยังคงกดดันการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และเป็นอุปสรรคต่อการมีเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง แต่ดิฉันยังคงมีความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจในระยะกลาง และคาดว่าสหรัฐจะมีการจ้างงานเต็มศักยภาพในปีหน้า"
"เป็นเรื่องจำเป็นที่สภาคองเกรสจะต้องแก้ไขปัญหาเพดานหนี้โดยเร็ว เนื่องจากความเชื่อมั่นและอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐจะได้รับผลกระทบ ขณะที่สหรัฐจะเผชิญกับวิกฤตทางการเงินและภาวะเศรษฐกิจถดถอย" นางเยลเลนระบุในแถลงการณ์