ราคาทองฟิวเจอร์พุ่งขึ้น 2% ใกล้แตะระดับ 1,760 ดอลลาร์ในวันนี้ จากแรงซื้อเก็งกำไรของนักลงทุน หลังจากร่วงลงติดต่อกัน 2 วัน
นอกจากนี้ ราคาทองยังได้ปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ ซึ่งจะเพิ่มความน่าดึงดูดของทอง โดยทำให้สัญญาทองมีราคาถูกลงสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น
ณ เวลา 21.58 น.ตามเวลาไทย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ดีดตัวขึ้น 34.50 ดอลลาร์ หรือ 2.0% สู่ระดับ 1,757.40 ดอลลาร์/ออนซ์
อย่างไรก็ดี ราคาทองยังคงถูกกดดันจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) และปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้
นักลงทุนจับตาการลงมติในสภาคองเกรสต่อร่างกฎหมายเลี่ยงชัตดาวน์ในวันนี้
นายมิตช์ แมคคอนเนลล์ ผู้นำเสียงข้างน้อยในวุฒิสภาสหรัฐจากพรรครีพับลิกัน คาดการณ์ว่า วุฒิสภาจะให้การอนุมัติร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราว เพื่อสนับสนุนหน่วยงานของรัฐบาลกลางสหรัฐให้มีงบประมาณใช้จ่ายจนถึงวันที่ 3 ธ.ค. และหลีกเลี่ยงไม่ให้หน่วยงานเหล่านี้ต้องถูกปิดการดำเนินงาน
คำกล่าวของนายแมคคอนเนลล์เป็นการส่งสัญญาณว่าพรรครีพับลิกันจะให้ความร่วมมือกับพรรคเดโมแครตในการผลักดันร่างกฎหมายดังกล่าวในการลงมติวันนี้
ถ้อยแถลงของนายแมคคอนเนลล์สอดคล้องกับคำกล่าวของนายชัค ชูเมอร์ ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภาจากพรรคเดโมแครต ซึ่งประกาศว่า สมาชิกวุฒิสภาได้บรรลุข้อตกลงสำหรับการผ่านร่างกฎหมายดังกล่าวแล้ว
"เราสามารถอนุมัติร่างกฎหมายดังกล่าวได้อย่างรวดเร็ว และส่งไปยังสภาผู้แทนราษฎรเพื่อให้ถึงโต๊ะท่านประธานาธิบดีก่อนที่จะสิ้นสุดปีงบประมาณในช่วงเที่ยงคืนวันนี้" นายชูเมอร์กล่าว
ร่างกฎหมายฉบับนี้จำเป็นต้องได้รับการเสียงสนับสนุนจากวุฒิสมาชิกทั้ง 100 คน
อย่างไรก็ดี ร่างกฎหมายฉบับนี้ไม่รวมถึงการเพิ่มเพดานหนี้ของสหรัฐ ซึ่งพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันจะมีการหารือกันหลังจากนี้
นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ กล่าวเตือนว่า สภาคองเกรสมีเวลาไม่ถึง 3 สัปดาห์ในการพิจารณาเรื่องการขยายเพดานหนี้ และหลีกเลี่ยงหายนะที่จะเกิดกับเศรษฐกิจของประเทศ
"สิ่งที่เราประมาณการในขณะนี้ก็คือว่า เม็ดเงินในมาตรการพิเศษของกระทรวงการคลังจะหมดลงหากสภาคองเกรสไม่ปรับเพิ่มเพดานหนี้หรือระงับเพดานหนี้ภายในวันที่ 18 ต.ค. ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้น เราคาดว่ากระทรวงการคลังจะมีทรัพยากรที่จำกัดมากและจะหมดลงอย่างรวดเร็ว" นางเยลเลนกล่าว
นอกจากนี้ นางเยลเลนยังระบุว่า หากสภาคองเกรสล้มเหลวในการเพิ่มเพดานหนี้ ก็จะส่งผลให้สหรัฐเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ และจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเศรษฐกิจของประเทศ