สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (6 ต.ค.) โดยได้แรงหนุนการชะลอตัวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ ขณะที่นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันศุกร์นี้
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 90 เซนต์ หรือ 0.05% ปิดที่ 1,761.80 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 7.6 เซนต์ หรือ 0.34% ปิดที่ 22.532 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 17.4 ดอลลาร์ หรือ 1.81% ปิดที่ 977.2 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 31.60 ดอลลาร์ หรือ 1.7% ปิดที่ 1,867.80 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำได้รับแรงหนุนหลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีปรับตัวลงสู่ระดับ 1.515% เมื่อคืนนี้ ซึ่งช่วยลดต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย
อย่างไรก็ดี การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ได้สกัดแรงบวกของราคาทองคำ เนื่องจากทำให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาที่ไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.31% แตะที่ 94.2641 เมื่อคืนนี้
นอกจากนี้ นักลงทุนยังเทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัยหลังจากออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้น 568,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 425,000 ตำแหน่ง จากระดับ 340,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค.
นักลงทุนจับตาสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนก.ย.ในวันศุกร์นี้ ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนึ่งที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ใช้ในการพิจารณาการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของ FactSet คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ย.ของสหรัฐจะเพิ่มขึ้น 475,000 ตำแหน่ง ซึ่งดีกว่าในเดือนส.ค.ที่เพิ่มขึ้นเพียง 235,000 ตำแหน่ง