สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (21 ต.ค.) โดยถูกกดดันจากเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น ซึ่งทำให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาแพงขึ้นและไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 3 ดอลลาร์ หรือ 0.17% ปิดที่ 1,781.9 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 27.5 เซนต์ หรือ 1.12% ปิดที่ 24.17 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 2.6 ดอลลาร์ หรือ 0.25% ปิดที่ 1,049.7 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 64.30 ดอลลาร์ หรือ 3.1% ปิดที่ 2,018.10 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำถูกกดดันจากดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.22% แตะที่ 93.7690 เมื่อคืนนี้
ส่วนการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในวันศุกร์นั้นเป็นไปอย่างไร้ทิศทาง โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 6,000 ราย สู่ระดับ 290,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2563 ซึ่งเป็นช่วงเริ่มต้นการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ
สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองเพิ่มขึ้น 7% สู่ระดับ 6.29 ล้านยูนิตในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 6.09 ล้านยูนิต
ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟีย เปิดเผยดัชนีภาคการผลิตในภูมิภาคมิด-แอตแลนติก ร่วงลงสู่ระดับ 23.8 ในเดือนต.ค. จากระดับ 30.7 ในเดือนก.ย.