สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (27 ต.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์และการปรับตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ รวมทั้งการที่นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัยหลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ย่ำแย่
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 5.4 ดอลลาร์ หรือ 0.3% ปิดที่ 1,798.8 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 10.3 เซนต์ หรือ 0.43% ปิดที่ 24.191 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 13.6 ดอลลาร์ หรือ 1.32% ปิดที่ 1,019.3 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 30.50 ดอลลาร์ หรือ 1.5% ปิดที่ 1,974.30 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำดีดตัวขึ้นหลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีร่วงลงสู่ระดับต่ำกว่า 1.6% เมื่อคืนนี้ ซึ่งการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐจะช่วยลดต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย
นอกจากนี้ การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังเป็นปัจจัยบวกต่อตลาดทองคำ เนื่องจากทำให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐนั้น มีราคาถูกลงและมีความน่าดึงดูดมากขึ้นสำหรับนักลงทุนที่ถือเงินสกุลอื่น
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.14% แตะที่ 93.8082 เมื่อคืนนี้
เว็บไซต์ของมาร์เก็ตวอชระบุว่า สัญญาทองคำยังได้รับแรงหนุนจากความต้องการทองคำที่เพิ่มขึ้นในประเทศจีน รวมทั้งแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป ลดลง 0.4% ในเดือนก.ย. หลังจากเพิ่มขึ้น 1.3% ในเดือนส.ค.
นักลงทุนจับตาการประชุมของธนาคารต่าง ๆ ทั่วโลก โดยธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) และธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะจัดการประชุมในวันนี้
ส่วนในสัปดาห์หน้า ธนาคารกลางออสเตรเลียจะจัดการประชุมในวันอังคาร, ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จัดการประชุมในวันอังคารและพุธ ส่วนธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) และธนาคารกลางนอร์เวย์จัดการประชุมในวันพฤหัสบดี
นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดอาจปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในการประชุมครั้งนี้ ขณะที่ BoE อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในปีที่แล้ว