สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (2 พ.ย.) โดยได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ในสัปดาห์นี้
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 6.4 ดอลลาร์ หรือ 0.36% ปิดที่ 1,789.4 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 56.6 เซนต์ หรือ 2.35% ปิดที่ 23.507 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 28 ดอลลาร์ หรือ 2.62% ปิดที่ 1,039.3 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 44.90 ดอลลาร์ หรือ 2.2% ปิดที่ 2,007.40 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำปรับตัวลงหลังจากดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.22% แตะที่ 94.0899 เมื่อคืนนี้
ทั้งนี้ การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ส่งผลให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาแพงขึ้นและไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น
นักลงทุนจับตาผลการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ หรือในช่วงเช้าตรู่วันพรุ่งนี้ตามเวลาไทย ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ในแถลงการณ์หลังการประชุมครั้งนี้ เฟดจะประกาศปรับลดวงเงิน QE เดือนละ 15,000 ล้านดอลลาร์ โดยเริ่มตั้งแต่เดือนพ.ย. ซึ่งจะทำให้เฟดยุติการทำ QE โดยสิ้นเชิงในกลางปี 2565
ขณะเดียวกัน นักลงทุนคาดการณ์ว่าธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 4 พ.ย. และในเดือนธ.ค. รวมทั้งจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปในปีหน้า หลังจากที่นายแอนดรูว์ เบลีย์ ผู้ว่าการ BoE ส่งสัญญาณบ่งชี้ว่า BoE มีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อรับมือกับเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้น