สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (7 ธ.ค.) ขานรับแรงซื้อก่อนช่วงเทศกาลปีใหม่ ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนพ.ย.ของสหรัฐในวันศุกร์นี้ รวมทั้งการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในสัปดาห์หน้า
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 5.2 ดอลลาร์ หรือ 0.29% ปิดที่ 1,784.7 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 26 เซนต์ หรือ 1.17% ปิดที่ 22.523 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 13.6 ดอลลาร์ หรือ 1.45% ปิดที่ 950 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 1.40 ดอลลาร์ หรือ 0.1% ปิดที่ 1847 ดอลลาร์/ออนซ์
ตลาดได้รับปัจจัยบวกจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อทองคำก่อนถึงช่วงเทศกาลปีใหม่ และจากแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยหลังจากสหรัฐเปิดเผยว่า ประสิทธิภาพในการผลิตของแรงงานนอกภาคเกษตรร่วงลง 5.2% ในไตรมาส 3 หลังจากขยายตัว 2.4% ในไตรมาส 2 โดยประสิทธิภาพในการผลิตของแรงงานเป็นการวัดผลผลิตรายชั่วโมงต่อแรงงาน 1 คน
อย่างไรก็ดี สัญญาทองคำปรับตัวขึ้นไม่มากนัก เนื่องจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี พุ่งขึ้นแตะระดับ 1.450% และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปีดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 1.763% เมื่อคืนนี้
ทั้งนี้ การพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐจะเพิ่มต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย
นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางขนาดใหญ่ 3 แห่งของโลกในสัปดาห์หน้า โดยธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะจัดการประชุมในวันที่ 14-15 ธ.ค. ขณะที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) จะจัดการประชุมพร้อมกันในวันที่ 16 ธ.ค.
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนพ.ย.ของสหรัฐในวันศุกร์นี้ โดยดัชนี CPI เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ซึ่งหากสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ ก็จะเป็นปัจจัยที่ทำให้เฟดเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย