สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันศุกร์ (14 ม.ค.) โดยถูกกดดันจากการที่ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น นอกจากนี้ แรงขายทำกำไรก่อนวันหยุดยาวสุดสัปดาห์นี้ ถ่วงสัญญาทองคำลงด้วย โดยตลาดทองคำนิวยอร์กจะปิดทำการในวันจันทร์ที่ 17 ม.ค. เนื่องในวันมาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 4.9 ดอลลาร์ หรือ 0.27% ปิดที่ 1,816.5 ดอลลาร์/ออนซ์ แต่ในรอบสัปดาห์นี้ สัญญาทองคำปรับตัวขึ้น 1.1%
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 24.4 เซนต์ หรือ 1.05% ปิดที่ 22.918 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 7.6 ดอลลาร์ หรือ 0.78% ปิดที่ 964.6 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 11.80 ดอลลาร์ หรือ 0.6% ปิดที่ 1,878.20 ดอลลาร์/ออนซ์
ดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นกดดันสัญญาทองคำ โดยทำให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้นมีราคาแพงขึ้น และไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น ๆ
ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน บวก 0.39% สู่ระดับ 95.1673
อย่างไรก็ตาม การเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐยังคงเป็นแรงหนุนต่อสัญญาทองคำ
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยในวันศุกร์ว่า ยอดค้าปลีก ดิ่งลง 1.9% ในเดือนธ.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่า อาจทรงตัวในเดือนดังกล่าว หลังจากเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนพ.ย.
ส่วนยอดค้าปลีกพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมยอดขายรถยนต์ น้ำมัน วัสดุก่อสร้าง และอาหาร ร่วงลง 3.1% ในเดือนธ.ค. สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่า อาจเพิ่มขึ้น 0.3% หลังจากลดลง 0.5% ในเดือนพ.ย.
ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 68.8 ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นอันดับ 2 ในรอบ 1 ทศวรรษ จากระดับ 70.6 ในเดือนธ.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าดัชนีจะปรับตัวลงสู่ระดับ 70.0
ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รายงานในวันศุกร์ว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวมของสหรัฐ ลดลง 0.1% ในเดือนธ.ค. สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่า เพิ่มขึ้น 0.2% หลังจากดีดตัวขึ้น 0.7% ในเดือนพ.ย.