สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 เดือนในวันอังคาร (25 ม.ค.) เนื่องจากสถานการณ์ตึงเครียดในยูเครนยังคงเป็นแรงผลักดันให้นักลงทุนเดินหน้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย นอกจากนี้ การร่วงลงของตลาดหุ้นสหรัฐ และการที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจโลก ยังเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยเช่นกัน
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 10.8 ดอลลาร์ หรือ 0.6% ปิดที่ 1,852.50 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 18 พ.ย. 2564
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 9.6 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 23.896 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 5.2 ดอลลาร์ หรือ 0.51% ปิดที่ 1,025.5 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. พุ่งขึ้น 47.90 ดอลลาร์ หรือ 2.2% ปิดที่ 2,188.90 ดอลลาร์/ออนซ์
นักลงทุนยังคงเดินหน้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากสถานการณ์ตึงเครียดในยูเครนมีแนวโน้มทวีความรุนแรงมากขึ้น โดยรายงานระบุว่ารัสเซียตรึงกำลังทหารเกือบ 100,000 นายประชิดชายแดนยูเครน และอาจบุกโจมตียูเครนในไม่ช้า ขณะที่การเจรจาระหว่างรัสเซียและชาติตะวันตกเพื่อแก้ไขความขัดแย้งเกี่ยวกับยูเครนยังคงไม่มีความคืบหน้า
นอกจากนี้ การร่วงลงอย่างต่อเนื่องของตลาดหุ้นสหรัฐ และการที่ IMF ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจโลก ยังเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยเช่นกัน ทั้งนี้ IMF คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจโลกจะขยายตัว 4.4% ในปี 2565 ลดลงจากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ระดับ 4.9% โดยระบุถึงผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19, ภาวะคอขวดในห่วงโซ่อุปทาน รวมทั้งเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้น
ขณะเดียวกัน IMF คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัวเพียง 4.0% ในปีนี้ ลดลงจากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัว 5.2% โดยได้รับผลกระทบจากการที่เฟดถอนมาตรการกระตุ้นทางการเงิน ส่วนเศรษฐกิจจีนคาดว่าจะขยายตัว 4.8% ในปีนี้ ลดลงจากเดิมที่ระดับ 5.6% อันเนื่องมาจากผลกระทบของนโยบาย Zero-Covid รวมทั้งภาวะตึงตัวทางการเงินโดยมีสาเหตุจากปัญหาในภาคอสังหาริมทรัพย์
นักลงทุนจับตาผลการประชุมเฟดซึ่งจะมีการแถลงในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ หรือในช่วงเช้าตรู่ของวันพรุ่งนี้ตามเวลาไทย