สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันจันทร์ (31 ม.ค.) โดยตลาดฟื้นตัวจากการที่นักลงทุนช้อนซื้อเก็งกำไร หลังจากราคาทองร่วงลงอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา นอกจากนี้ สถานการณ์ตึงเครียดในยูเครนยังเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 9.80 ดอลลาร์ หรือ 0.6% ปิดที่ 1,796.40 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 9 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 22.393 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 14.2 ดอลลาร์ หรือ 1.4% ปิดที่ 1,020.80 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 19.50 ดอลลาร์ หรือ 0.8% ปิดที่ 2,355.80 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำปิดตลาดดีดขึ้นสู่แดนบวก โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนเข้าช้อนซื้อหลังจากราคาดิ่งลงอย่างหนักในสัปดาห์ที่แล้ว
รูเพิร์ต โรว์ลิ่ง นักวิเคราะห์จากบริษัทไคเนซิส มันนี แสดงความเห็นว่า สถานการณ์ตึงเครียดทางการเมืองระหว่างชาติตะวันตกกับรัสเซียเกี่ยวกับประเด็นยูเครนยังคงเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย อย่างไรก็ดี การที่ราคาทองคำปิดต่ำกว่าระดับสำคัญทางจิตวิทยาที่ 1,800 ดอลลาร์นั้น บ่งชี้ว่าบรรยากาศการซื้อขายในตลาดยังคงได้รับแรงกดดันจากแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
นายราฟาเอล บอสติก ประธานเฟดสาขาแอตแลนตากล่าวให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียล ไทม์สเมื่อวานนี้ว่า เฟดอาจสร้างความประหลาดใจด้วยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% หากเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง
ทางด้านนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดกล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เฟดไม่ปฏิเสธความเป็นไปได้ที่ว่าอาจจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยมากกว่า 0.25% เมื่อพิจารณาจากตัวเลขเงินเฟ้อที่สูงมากในขณะนี้ ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในเวลาที่รวดเร็วกว่าและรุนแรงมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้