สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 2 ในวันอังคาร (1 ม.ค.) โดยราคาทองดีดตัวขึ้นเหนือระดับ 1,800 ดอลลาร์ได้อีกครั้ง เนื่องจากสถานการณ์ตึงเครียดในยูเครนยังเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 5.10 ดอลลาร์ หรือ 0.3% ปิดที่ 1,801.50 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 20 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 22.595 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 2.4 ดอลลาร์ หรือ 0.2% ปิดที่ 1,023.20 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 9.30 ดอลลาร์ หรือ 0.4% ปิดที่ 2,346.50 ดอลลาร์/ออนซ์
นักลงทุนยังคงเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ท่ามกลางความขัดแยังระหว่างรัสเซียและชาติตะวันตกในประเด็นยูเครน โดยรายงานระบุว่า รัฐบาลสหรัฐกำลังหารือกับชาติพันธมิตรในยุโรปตะวันออกเกี่ยวกับการส่งทหารอเมริกันไปประจำการในพื้นที่ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับชาติพันธมิตรในองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ในช่วงเวลาที่รัสเซียกำลังสะสมกองกำลังทหารตามแนวชายแดนยูเครน
นอกจากนี้ การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังช่วยให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาถูกลงและน่าดึงดูดสำหรับนักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่น ๆ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.28% แตะที่ 96.27 เมื่อคืนนี้
อย่างไรก็ดี บรรยากาศการซื้อขายตลาดทองคำยังคงได้รับแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะเพิ่มต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทอง เนื่องจากทองเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย
นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันศุกร์นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้นเพียง 178,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. และคาดว่าอัตราว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 3.9%