ส่วนดัชนีตลาดหุ้นหลักทั้งสามของสหรัฐปรับตัวลดลง ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนตลาดทองคำเช่นกัน
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 3 ดอลลาร์ หรือ 0.16% ปิดที่ 1,910.4 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยสัญญาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่เมื่อวันที่ 7 ม.ค. 2564
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 24.2 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ 24.553 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 5.7 ดอลลาร์ หรือ 0.52% ปิดที่ 1,091.7 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 68.80 ดอลลาร์ หรือ 2.9% ปิดที่ 2440.60 ดอลลาร์/ออนซ์
ราคาทองคำได้รับอิทธิพลจากความวิตกเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างรัสเซียกับยูเครน หลังรัสเซียส่งทหารเข้าไปยังสองแคว้นทางตะวันออกของยูเครนซึ่งรัสเซียประกาศรับรองความเป็นเอกราชเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ขณะที่สหภาพยุโรป อังกฤษ และสหรัฐ ได้ประกาศคว่ำบาตรรัสเซียในวันอังคาร
กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐระบุว่า สหรัฐยังไม่เห็นสัญญาณใด ๆ ที่แสดงว่ารัสเซียจะล่าถอย ขณะที่ทำเนียบขาวระบุว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ไม่มีความตั้งใจที่จะส่งทหารสหรัฐไปสู้รบในยูเครน
ผู้สังเกตการณ์ระบุว่า รัสเซียได้เริ่มอพยพเจ้าหน้าที่ออกจากสถานทูตรัสเซียในกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน ซึ่งเป็นอีกสัญญาณที่บ่งชี้ว่า รัสเซียอาจจะบุกโจมตียูเครน แม้ชาติตะวันตกได้ประกาศมาตรการคว่ำบาตรต่อการที่รัสเซียส่งทหารเข้าควบคุมสองแคว้นทางตะวันออกของยูเครนหลังให้การรับรองเอกราช