สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพุธ (2 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง นอกจากนี้ การพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐยังเป็นปัจจัยฉุดตลาด
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 21.5 ดอลลาร์ หรือ 1.11% ปิดที่ 1,922.3 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 35.1 เซนต์ หรือ 1.37% ปิดที่ 25.19 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 16.1 ดอลลาร์ หรือ 1.53% ปิดที่ 1,068 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. พุ่งขึ้น 127 ดอลลาร์ หรือ 5% ปิดที่ 2,664.90 ดอลลาร์/ออนซ์
นักลงทุนเทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งเมื่อคืนนี้ โดยดัชนีดาวโจนส์ดีดตัวขึ้นเกือบ 600 จุด ขณะที่ดัชนี Nasdaq และ S&P500 ต่างก็พุ่งขึ้นกว่า 1.5% หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนมี.ค. ซึ่งน้อยกว่าที่นักลงทุนคาดการณ์ไว้ว่าจะปรับขึ้น 0.50%
ข้อมูลแรงงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐยังเป็นปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนเทขายสินทรัพย์ปลอดภัย โดยออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง (ADP) ระบุว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้น 475,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 400,000 ตำแหน่ง
นอกจากนี้ การพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐยังสร้างแรงกดดันต่อตลาดทองคำ เนื่องจากจะเพิ่มต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ เพราะทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย