สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ (8 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อ และภาวะเศรษฐกิจถดถอย
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 7.8 ดอลลาร์ หรือ 0.4% ปิดที่ 1,945.6 ดอลลาร์/ออนซ์ และปรับตัวขึ้น 1.1% ในรอบสัปดาห์นี้
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 8.8 เซนต์ หรือ 0.36% ปิดที่ 24.823 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 17.6 ดอลลาร์ หรือ 1.84% ปิดที่ 975.6 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. พุ่งขึ้น 197.00 ดอลลาร์ หรือ 8.9% ปิดที่ 2,420.10 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำปรับตัวขึ้น แม้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นอย่างมากก็ตาม ซึ่งตามปกติแล้ว การที่ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นจะลดความน่าสนใจของทองคำสำหรับผู้ถือสกุลเงินอื่น เนื่องจากดอลลาร์ที่แข็งค่าจะทำให้ทองคำมีราคาแพงขึ้น
ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด), ความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย และแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยด้วย
นอกจากนี้ นักลงทุนยังเข้าซื้อสัญญาทองคำ ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน รวมถึงอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น
สัญญาทองคำได้แรงหนุนหลังจากที่นายพลรายหนึ่งของสหรัฐระบุว่า ความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครนอาจดำเนินไปหลายปี
บรรดานักลงทุนจะรอการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนมี.ค.ของสหรัฐในวันอังคารหน้า ซึ่งคาดว่าจะพุ่งขึ้นเหนือระดับ 8%
ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐที่เปิดเผยในวันศุกร์ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งพุ่งขึ้น 2.5% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบรายเดือน และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 2.1% หลังจากเพิ่มขึ้น 1.2% ในเดือนม.ค. และเมื่อเทียบรายปี สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งพุ่งขึ้น 19.9% ในเดือนก.พ.