สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 5 ในวันพุธ (13 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อในสหรัฐ รวมทั้งสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ส่งสัญญาณยืดเยื้อ
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 8.6 ดอลลาร์ หรือ 0.44% ปิดที่ 1,984.7 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 29.5 เซนต์ หรือ 1.15% ปิดที่ 26.03 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 17.2 ดอลลาร์ หรือ 1.77% ปิดที่ 989.6 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 14.80 ดอลลาร์ หรือ 0.62% ปิดที่ 2,339.50 ดอลลาร์/ออนซ์
นักลงทุนยังคงเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยในวันอังคาร (12 เม.ย.) ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค พุ่งขึ้น 8.5% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2524 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 8.4%
ส่วนเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต เพิ่มขึ้น 11.2% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เริ่มมีการจัดทำดัชนี และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 10.6%
นอกจากนี้ ความกังวลเกี่ยวกับสงครามที่ยืดเยื้อระหว่างรัสเซียและยูเครนยังเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย โดยประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียกล่าวว่า การบุกโจมตีของรัสเซียในยูเครนจะดำเนินต่อไปจนกว่าจะบรรลุเป้าหมาย และยืนยันว่าการรบจะดำเนินการไปตามแผน แม้ได้ทำการถอนทหารครั้งใหญ่เมื่อเผชิญกับการต่อต้านอย่างแข็งแกร่งของยูเครน และรัสเซียได้สูญเสียทหารจำนวนหลายพันนายจากการสู้รบในยูเครนที่ดำเนินมาตั้งแต่ปลายเดือนก.พ.ก็ตาม
ทางด้านรัฐบาลยูเครนเปิดเผยว่า ยูเครนกำลังสืบสวนว่ามีการใช้สารพิษกับทหารของยูเครน และยังไม่ชัดเจนว่าสารพิษดังกล่าวคืออะไร แต่เจ้าหน้าที่ของตะวันตกเตือนว่า การที่รัสเซียใช้อาวุธเคมีนั้นจะเป็นการเพิ่มความรุนแรงของสงครามที่มีการทำลายล้างสูงอยู่แล้ว