สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเพียงเล็กน้อยในวันพุธ (1 มิ.ย.) เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์และการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐเป็นปัจจัยกดดันตลาด
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 30 เซนต์ หรือ 0.02% ปิดที่ 1,848.7 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 22.7 เซนต์ หรือ 1.05% ปิดที่ 21.915 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 28.1 ดอลลาร์ หรือ 2.9% ปิดที่ 996.4 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 4.40 ดอลลาร์ หรือ 0.21% ปิดที่ 2,001.90 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำปรับตัวในกรอบแคบตลอดทั้งวัน ก่อนที่จะปิดตลาดขยับขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เนื่องจากการแข็งค่าของดอลลาร์ได้ลดความน่าดึงดูดของทองคำ โดยทำให้สัญญาทองคำมีราคาแพงขึ้นสำหรับนักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่น ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.73% แตะที่ 102.4980 จุด
นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังถูกกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีดีดตัวสู่ระดับ 2.944% ซึ่งการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะเพิ่มต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย
นักลงทุนจับตาข้อมูลแรงงานสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยในวันนี้จะมีการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนพ.ค.จาก ADP และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ส่วนในวันพรุ่งนี้จะมีการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ค.
นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 14-15 มิ.ย. โดยคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 0.50% ในการประชุมเดือนมิ.ย.และเดือนก.ค.เพื่อสกัดเงินเฟ้อ