สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันอังคาร (21 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตานายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะแถลงนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐรอบครึ่งปีต่อสภาคองเกรสในสัปดาห์นี้
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 1.8 ดอลลาร์ หรือ 0.1% ปิดที่ 1,838.8 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 18.1 เซนต์ หรือ 0.84% ปิดที่ 21.768 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 9.3 ดอลลาร์ หรือ 1% ปิดที่ 939.5 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. พุ่งขึ้น 64 ดอลลาร์ หรือ 3.6% ปิดที่ 1,862.70 ดอลลาร์/ออนซ์
นักลงทุนเทขายสินทรัพย์ปลอดภัย หลังจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กทะยานขึ้นกว่า 600 จุดเมื่อคืนนี้ เนื่องจากมีแรงซื้อหุ้นเป็นวงกว้าง ซึ่งรวมถึงหุ้นกลุ่มพลังงาน
นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังถูกกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีพุ่งขึ้นสู่ระดับ 3.302% เมื่อคืนนี้ ซึ่งการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะเพิ่มต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือครองทองคำ เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ย
นักลงทุนจับตานายพาวเวลซึ่งมีกำหนดแถลงนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐรอบครึ่งปีต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาในวันพุธที่ 22 มิ.ย. และจากนั้นจะแถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรในวันพฤหัสบดีที่ 23 มิ.ย.
ก่อนการแถลงของนายพาวเวล เฟดได้ยื่นรายงานนโยบายการเงินรอบครึ่งปีต่อสภาคองเกรสเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยระบุว่า "คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) มีความมุ่งมั่น 'อย่างไม่มีเงื่อนไข' ในการรักษาเสถียรภาพของราคา ซึ่งเป็นสิ่งที่มีความจำเป็นต่อการรักษาตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง"
ทั้งนี้ การใช้คำว่า "อย่างไม่มีเงื่อนไข" ในรายงานดังกล่าว บ่งชี้ว่าเฟดพร้อมรับความเสี่ยงต่างๆที่อาจเกิดขึ้น เพื่อให้เศรษฐกิจสามารถหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่เลวร้ายกว่าจากการที่เงินเฟ้อไม่สามารถควบคุมได้จนทำให้เศรษฐกิจเกิดความเสียหายในระยะยาว