สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบติดต่อกันเป็นวันที่ 4 ในวันพฤหัสบดี (23 มิ.ย.) โดยตลาดถูกกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ หลังจากประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 8.6 ดอลลาร์ หรือ 0.47% ปิดที่ 1,829.8 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 37.9 เซนต์ หรือ 1.77% ปิดที่ 21.042 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 22.5 ดอลลาร์ หรือ 2.43% ปิดที่ 904.4 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. ร่วงลง 13.80 ดอลลาร์ หรือ 0.8% ปิดมรา 1,824.10 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.22% แตะที่ 104.4310 เมื่อคืนนี้
ทั้งนี้ การแข็งค่าของดอลลาร์ส่งผลให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาแพงขึ้นและไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่น
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าหลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเมื่อวานนี้ว่า เฟดมุ่งมั่นที่จะควบคุมอัตราเงินเฟ้ออย่างไม่มีเงื่อนไข แม้ว่าการดำเนินการของเฟดอาจทำให้อัตราว่างงานในสหรัฐสูงขึ้นก็ตาม โดยนายพาวเวลระบุว่าขณะนี้เงินเฟ้อในสหรัฐพุ่งขึ้นมากกว่า 3 เท่าจากเป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2%
นอกจากนี้ ข้อมูลแรงงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐยังส่งผลให้นักลงทุนเทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยจำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ลดลง 2,000 ราย สู่ระดับ 229,000 รายในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 18 มิ.ย.